วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การเลือกบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์อาหาร



การเลือกบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์อาหาร


ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์พลาสติกมีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก เนื่องจากพลาสติกมีข้อดีที่เป็นประโยชน์คือสามารถป้องกันการซึมผ่านของอากาศและก๊าชได้ระดับหนึ่ง ทนต่อความร้อนหรือเย็น ทนต่อกรดหรือด่าง พลาสติกจะมีลักษณะแข็ง เหนียวและมีความยืดหยุ่นสูง มีน้ำหนักเบา ไม่นำความร้อน ไม่นำไฟฟ้า สามารถขึ้นรูปทรงได้ง่ายหลากหลายรูปแบบและหลากหลายขนาด อีกทั้งยังสามารถปรับให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เหมาะสมกับการใช้งานผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลดังต่อไปนี้

แนวทางการเลือกบรรจุภัณฑ์พลาสติกในการบรรจุอาหาร
บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกจะแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติของการใช้งานที่แตกต่างกันไป หากท่านต้องการที่จะเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์อาหาร ท่านสามารถเลือกและสังเกตได้จากสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดนั้นๆ เพราะสัญลักษณ์ที่แสดงอยู่สามารถบอกได้ว่าบรรจุภัณฑ์นั้นผลิตจากพลาสติกชนิดใดและมีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องท่านสามารถศึกษาได้จากข้อมูลด้านล่างนี้
1. โพลีเอททีลีน เทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephalate: PET OR PETE)
คุณสมบัติ คือ มีความโปร่งใส แข็งแรงทนทาน เหนียว ไม่แตกง่าย สามารถป้องกันการซึมผ่านของก๊าซ(Gas) ได้ดี และทนต่ออุณหภูมิได้ไม่เกิน 70 ถึง 100 องศาเซลเซียส
การนำไปใช้ประโยชน์ นำไปผลิตเป็นขวดบรรจุน้ำอัดลม น้ำดื่ม น้ำมัน น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำยาบ้วนปาก กล่องขนม ฯลฯ เป็นต้น เนื่องจากพลาสติกชนิดนี้มีความคงทนต่อสภาพต่างๆ ได้ดี เช่นความเค็มของน้ำปลา อีกทั้งยังมีความใส ที่ใกล้เคียงกับขวดแก้วแต่มีน้ำเบาและมีราคาที่ถูกกว่าแก้ว พลาสติกชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

2. ไฮเดนซิตี้ โพลีเอททีลีน (High Density Polyethylene : HDPE)
คุณสมบัติ คือ มีสีขุ่น มีความแข็งแรงคงทน เหนียวไม่แตกง่าย สามารถป้องการการซึมผ่านของน้ำและความชื้นได้ดี สามารถต้านทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมีได้ และทนต่ออุณหภูมิได้ถึง 105 องศาเซลเซียส
การนำไปใช้ประโยชน์ บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มีเนื้อเหนียวเป็นพิเศษ สามารถทนต่อแรงบิดและแรงอัดสูง จึงนิยมนำมาผลิตเป็นลังบรรจุสินค้าต่าง ๆ หรือนำมาผลิตเป็นขวดบรรจุนม น้ำดื่ม น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า เคมีภัณฑ์ต่างๆ ฯลฯ เป็นต้น

3. โพลีไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride :PVC)
คุณสมบัติ คือ มีความแข็งแรง เหนียว ทนต่อสารเคมี ป้องกันการซึมผ่านของก๊าซ(Gas) และน้ำได้ดี มีน้ำหนักเบา มีความโปร่งใสมาก สามารถทนต่ออุณหภูมิร้อนเย็นได้ไม่เกิน -20 ถึง 80 องศาเซลเซียส
การนำไปใช้ประโยชน์ นำมาผลิตเป็นฟิล์มที่ใช้ห่อหุ้มอาหาร ถาดบรรจุหรือกล่องบรรจุอาหาร ขวดบรรจุน้ำ ฯลฯ เป็นต้น ในอดีตพลาสติกชนิดนี้มีสารบางชนิดก่อให้เกิดมะเร็งในตับแก่ผู้บริโภค แต่ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาจนมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากขึ้น

4. โลเดนซิตี้ โพลีเอททีลีน(Low-Density Polyethylene : LDPE)
คุณสมบัติ มีความเหนียวและความยืดหยุ่นสูง สามารถป้องกันการซึมผ่านของอากาศและความชื่นได้ดี ทนทานต่อสารเคมี กรดและด่าง สามารถขึ้นรูปทรงได้ง่าย เป็นฉนวนที่ดีและไม่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์
การนำไปใช้ประโยชน์ สามารนำผลิตเป็นถุงพลาสติกเพื่อใช้สำหรับบรรจุอาหาร เช่น ถุงน้ำแข็ง ถุงบรรจุอาหารแช่เย็น ซองอาหารแห้งประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารเสริมสำหรับเด็ก หรือนำไปผลิตเป็นขวดบรรจุน้ำดื่ม น้ำเกลือ น้ำยาหยอดตา หรือนำมาผลิตเป็นฟิล์มหดที่ใช้รัดปากของหรือพลาสติกที่ห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์ฯลฯ เป็นต้น

5. โพลีโพรพิลีน(Polypropylene : PP)
คุณสมบัติ มีความใส มีความเหนียวและมีความยืดหยุ่นสูง ขึ้นรูปทรงได้ง่าย สามารถป้องกันการซึมผ่านของความชื้นได้ดี เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี ทนทานต่อสารเคมี และไขมัน นิยมนำมาทำถุงร้อนหรือเย็น สามารถนำเข้าเตาไมโครเวฟได้ และทนต่ออุณหภูมิร้อนเย็นได้ไม่เกิน -30 ถึง 130 องศาเซลเซียส
การนำไปใช้ประโยชน์ นำมาผลิตเป็นถุงพลาสติกร้อนและเย็น ฟิล์มใสห่อหุ้มอาหารที่ไม่ต้องการให้ออกซิเจนซึมผ่าน กล่องบรรจุอาหาร ขวดน้ำดื่ม ถ้วยน้ำ ฯลฯ เป็นต้น

6. โพลีสไตลีน (Polystyrene : PS)
คุณสมบัติ มีความใส แข็งแรงคงทน แต่ความยืดหยุ่นน้อยทำให้เปราะและแตกหักง่าย สามารถทำใส่สีและลวดลายต่างๆ ได้ ไม่มีกลิ่น ทนต่อกรดด่างและแอลกอฮอล์ และทนต่ออุณหภูมิร้อนเย็นได้ไม่เกิน -20 ถึง 80 องศาเซลเซียส ไม่สามารถนำเข้าเตาไมโครเวฟได้
การนำไปใช้ประโยชน์ นำมาผลิตเป็นกล่องหรือถาดโฟมเพื่อบรรจุอาหาร ฝาถ้วยน้ำต่างๆ ถ้วยไอศรีม ช้อน กล่องใส่ขนม ถ้วยน้ำ ฯลฯ เป็นต้น นิยมนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เพียงครั้งแล้วทิ้ง

7. พลาสติกผสม(Other)
คุณสมบัติ เป็นพลาสติกที่เกิดจากการผสมของพลาสติกชนิดต่างๆ การจะผสมพลาสติกชนิดใดนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานบรรจุภัณฑ์นั้นๆ
การนำไปใช้ประโยชน์ ผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีความคงทนต่อการต้มหรือกลั่นหรือผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีต้องมีการกระแทกสูง


ปัญหาของการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก
บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีก็คือมีราคาถูก น้ำหนักเบา มีความแข็งแรง สะดวกต่อการขนส่ง ขึ้นรูปทรงได้ง่ายหลากหลายรูปแบบและสามารถใส่ลวดลายสีสันได้ตามความต้องการ แต่ในข้อดีเหล่านี้มักมีข้อเสียและปัญหาต่างๆ แฝงตัวมาด้วยเสมอ ซึ่งผู้ประกอบการควรให้ความระมัดระวังอย่างมากในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก ปัญหาที่พบในการเลือกใช้ บรรจุภัณฑ์ คือ
  • การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ผลิตมิได้มาตรฐาน กล่าวคือ ปัญหาที่เกิดจากเลือกใช้ บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานจะทำให้มีสารเคมีเจือปนมากับพลาสติก เมื่อนำไปบรรจุอาหารสารเคมีที่เจือปนมากับพลาสติกจะละลายออกมาปนเปื้อนกับอาหาร ซึ่งถึงแม้สารเคมีเหล่านี้จะไม่มีผลต่อร่างกายทันที แต่หากร่างกายได้รับบ่อยๆ จะเกิดการสะสม จนก่อให้เกิดเป็นพิษเรื้อรังและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
  • การใช้บรรจุภัณฑ์ผิดประเภท กล่าวคือ การนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มิได้ผลิตขึ้นมา เพื่อบรรจุอาหารมาใช้ในการบรรจุอาหาร หรือการใช้บรรจุภัณฑ์ผิดประเภทการใช้งาน เช่นการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่สามารถทนความร้อนได้มาใส่อาหารที่มีความร้อนสูง ซึ่งจะทำให้พลาสติกละลาย สิ่งนี้ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการบรรจุอาหารที่แตกต่างกันไป หากนำมาใช้ผิดประเภทอาจทำให้เกิดผลเสียได้

ข้อควรระวัง
  • ไม่ควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีสีสันฉูดฉาดในการใส่อาหารร้อน หรือใส่อาหารที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม หรืออาหารที่ความเป็นกรด
  • ไม่ควรนำบรรจุภัณฑ์ที่เคยใช้แล้วนำกลับมาทำความสะอาดและใช้ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากอาจเกิดการสะสมของเชื้อโรคและสารเคมีตกค้างที่ทำความสะอาดออกไม่หมด
  • ไม่ควรนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกบรรจุอาหารที่เป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชู เพราะกรดจะกัดกร่อนพลาสติกและสีที่ผสมอยู่ในเนื้อพลาสติก เมื่อบริโภคสารเหล่านี้จะเข้าไปสะสมในร่างกายและเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ ดังนั้นผู้ประกอบการควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นแก้ว เซรามิค หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีความทนทานต่อกรดได้

ที่มา http://www.ismed.or.th/SME/src/bin/controller.php?view=knowledgeInsite.KnowledgesDetail&p=&nid=&sid=69&id=931&left=84&right=85&level=3&lv1=3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น